นายณัฐวัฒน์  อ่อนสุวรรณ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้ประสานไปยังทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 18 อำเภอที่ถูกพายุพัดถล่มบ้านเรือนเสียหายให้เร่งลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือน ราษฎรที่ถูกพายุพัดถล่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมี.ค.จนถึงขณะนี้รวมกว่า 3 เดือนเพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาให้ความช่วย เหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนโดยจากข้อมูลพบว่าขณะนี้มีบ้านเรือนที่ถูก พายุพัดถล่มพังเสียหายจำนวน 1,440  หลังคาเรือน  และมีราษฎรถูกพายุพัดบ้านพังทับเสียชีวิต ที่ต.ก้านเหลือง อ.นางรอง 1 รายและฟาร์มไก่ที่กำลังก่อสร้างพังทับบาดเจ็บอีก 2 ราย ที่ ต.หนองโสน อ.นางรอง  นอกจากนี้ยังมีสวนยางพาราของเกษตรถูกพายุพัดหักโค่นเสียหายอีกกว่า 100 ไร่

นาย ณัฐวัฒน์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดทางจังหวัดได้อนุมัติจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้ว173 ราย เป็นเงินกว่า 490,000 บาท ส่วนที่เหลือกำลังเร่งดำเนินการสำรวจช่วยเหลือ ส่วนกรณีที่มีประชาชนถูกฝ้าผ่าเสียชีวิตหลายรายเมื่อช่วงที่ผ่านมาไม่เข้า หลักเกณฑ์การให้ช่วยเหลือ สำหรับหลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือ หากบ้านเรือนถูกพายุพัดพังได้รับความเสียหายทั้งหลังจะได้รับเงินชดเชยรายละ ไม่เกิน 33,000 บาท หากเสียหายบางส่วนจะได้รับชดเชยตามความเสียหายจริง พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามการพยากรณ์ อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังอันตรายจากวาตภัยที่อาจ เกิดขึ้นซ้ำอีกในช่วงนี้เพาะเป็นช่วงสภาพอากาศแปรปรวนทั้งฝนตก  ฟ้าคะนอง และอากาศร้อน

แหล่งข่าวจาก posttoday…

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปได้รับอิทธิพลจากความต้องการใช้น้ำมันบางชนิดที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสำคัญๆของซีกโลกทางตอนเหนือ ทำให้เกิดความต้องการใช้การเน้นให้บริการตู้น้ำมันที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าดีเซลและน้ำมันก๊าดสูงมากขึ้นเพื่อใช้ในการสร้างความอบอุ่นให้กับบ้านเรือนและสำนักงาน ส่วนในฤดูร้อนความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้นเพราะผู้คนมีแนวโน้มที่จะใช้รถในการเดินทางมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โรงกลั่นตู้น้ำมันทั่วโลกที่ดำเนินการกลั่นน้ำมันอยู่ในขณะนี้ใกล้จะเต็มกำลังพิกัดการกลั่นแล้ว ดังนั้นในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะต้องมีการสร้างโรงกลั่นใหม่ๆเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญในการสร้างโรงกลั่นน้ำมันใหม่ คือ เงินลงทุนมหาศาลที่จำเป็นในการก่อสร้างและการดำเนินงานของโรงกลั่นที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลกทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการดูแลรักษาด้านสิ่งแวดล้อมของกระบวนการกลั่นตู้น้ำมัน และการให้ได้มาซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่สะอาดขึ้นและเป็นผลเสียกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด