ไทยแลนด์แดนคนยิ้มดังระบือทั่วโลก เมื่อสื่อต่างประเทศต่างเทใจยกให้เป็น“สวรรค์แดนท่องเที่ยวของคนรักเพศเดียว กัน” พร้อมประโคมข่าวไอเดียแจ่มของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จัดโครงการส่งเสริมอย่างเป็นทางการในชื่อ Go Thai, Be Free จนประสบความสำเร็จในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก
หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ได้เผยผลสำรวจจาก Boutique บริษัทด้านการตลาดของกลุ่มลูกค้ารักเพศเดียวกันในกรุงลอนดอนของอังกฤษที่จัด อันดับไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดในโลกประจำปี 2013 เอาชนะประเทศมหาอำนาจที่ได้เปรียบทั้งด้านพื้นที่และความหลากหลายอย่างสหรัฐ ซึ่งอยู่อันดับที่ 2
ประธานฝ่ายการจัดการบริษัท Boutique เผยว่า ตัวเลขมูลค่าการท่องเที่ยวของชาวเกย์ในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วสูงถึง 1,600 ล้านบาท ด้วยความสำเร็จที่ว่านี้จึงกลายเป็นโครงการ Go Thai,Be Free โดยมีสำนักงานใหญ่ที่มหานครนิวยอร์กของสหรัฐ พร้อมจัดทำเว็บไซต์แนะนำจุดเที่ยวดังในจังหวัดต่างๆ ทั้งย่านสังสรรค์และธรรมชาติที่สวยงามและยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงแนะนำบริษัทท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะ ด้วย
นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวออสเตรเลียที่มาเที่ยวย่านสีลมกับคู่รักเพศเดียว กันเผยว่าตัวเองเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลิน เพราะไม่รู้สึกถูกตัดสินหรือมองด้วยสายตาประหลาดใจ และไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มีทั้งคู่รักประเภทเดียวกับตัวเองทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติใช้ชีวิตอย่าง สะดวกสบาย
สื่อต่างชาติยังรายงานด้วยว่า จากผลของการส่งเสริมให้คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วยการต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่มีรสนิยมหลากหลายอย่างไร้อคติ ได้ส่งผลให้ไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวอันดับแรกๆของชาวรักเพศเดียวกัน เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ที่ส่วนใหญ่ยังคงเคร่งครัดในเรื่องวัฒนธรรมและมีทัศนคติเชิงลบกับคนรักเพศ เดียวกันอยู่โดยเฉพาะมาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า และบรูไน ที่การมีพฤติกรรมรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ด้วยความเปิดกว้างที่ว่านี้ ทำให้ชาวรักร่วมเพศในประเทศอาเซียนต่างแห่แหนหันมาลิ้มรสอิสรภาพในเมืองไทย กันอย่างคับคั่ง หนึ่งในนั้นรวมถึงคู่รักชาวมาเลเซียที่เปิดใจกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า รู้สึกเป็นอิสระในเมืองไทยจนต้องเฉลิมฉลองความรู้สึกดีๆ ที่ว่านี้เลยทีเดียวสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า ด้วยทัศนคติที่เปิดกว้างของคนไทย อาจช่วยกรุยทางสู่การผ่านร่างกฎหมายการจดทะเบียนสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน ได้ภายใน 1 ปีจากนี้ และจะทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผ่านกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ ทีมร่างกฎหมายที่สนับสนุนเรื่องดังกล่าวในไทยเผยว่า การผลักดันด้านกฎหมายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆเช่น กู้เงิน ประกันสุขภาพ หรือการรักษาพยาบาลที่มีประเด็นด้านกฎหมายมาเกี่ยวข้อง
แหล่งข่าวจาก posttoday…